ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เลือดออกใต้เยื่อบุตา

โดย แพทย์หญิง อรทัย สุวรรณพิมลกุล จักษุแพทย์

เลือดออกใต้เยื่อบุตา

ภาวะเลือดออกใต้เยื่อบุตา คือ การที่มีเลือดอยู่ระหว่างเยื่อบุตากับผนังตาขาวเป็นภาวะที่พบได้บ่อย และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ผู้ป่วยมักจะมาพบจักษุแพทย์ เนื่องจากบริเวณตาขาวจะมีสีแดงจัดจากเลือดก่อให้เกิดความกังวลว่าจะเป็นโรคที่ร้ายแรงหรือไม่

สาเหตุ
เลือดออกใต้เยื่อบุตาเกิดจากเส้นเลือดฝอยที่เยื่อบุตาและเส้นเลือดด้านนอกของผนังตาขาวมีการแตกคล้าย ๆ กับเลือดกำเดาออกนั่นเอง
สาเหตุอาจเกิดจาก

  1. เกิดขึ้นเองโดยไม่มีสาเหตุ
  2. ภาวะที่มีการออกแรงหรือเบ่ง เช่น ไอจามแรง ๆ เบ่งอุจจาระ อาเจียน ยกของหนัก เป็นต้น
  3. อุบัติเหตุจากการกระแทกบริเวณตาหรืออุบัติเหตุรุนแรงที่ช่องอกทำให้เกิดความดันในลูกตาเพิ่มขึ้น
  4. ความดันโลหิตสูงมาก ๆ
  5. ภาวะที่มีความผิดปรกติในการแข็งตัวของเลือดหรือเส้นเลือดเปราะบาง เช่น โรคเลือดต่าง ๆ โรคตับ SLE ขาดวิตามินซี
  6. ยาบางชนิด เช่น ยากันการแข็งตัวของเลือด ยาแก้ปวดจำพวก NSAID ยาแอสไพริน สเตียรอยด์ ยาคุมกำเนิด เป็นต้น
  7. โรคติดเชื้อในร่างกาย
  8. ตาแดงจากเชื้อไวรัสบางชนิด 

อาการ และอาการแสดง

  1. ตาแดงเป็นสีแดงสดของเลือด
  2. อาจไม่มีอาการหรือมีอาการระคายเคืองตาเพียงเล็กน้อย

การรักษา

  1. โดยทั่วไปภาวะนี้ไม่มีอันตรายใด ๆ ซึ่งเลือดที่ออกมักจะจางหายไปได้เองในระยะเวลา 1 - 2 สัปดาห์ อาจไม่จำเป็นต้องใช้ยาใด ๆ หากไม่มีอาการ
  2. แพทย์อาจให้น้ำตาเทียมเพื่อลดอาการระคายเคือง
  3. หลีกเลี่ยงการขยี้ตาแรง ๆ เพราะอาจทำให้เลือดออกซ้ำได้
  4. หลีกเลี่ยงการใช้ยาบางชนิด เช่น แอสไพริน หรือ NSAID ระหว่างที่มีอาการ
  5. ในรายที่มีเลือดออกใต้เยื่อบุตาเป็น ๆ หาย ๆ บ่อย ๆ แพทย์อาจพิจารณามองหาสาเหตุโรคทางกาย เช่น โรคที่มีความผิดปรกติของเส้นเลือดเปราะ หรือการแข็งตัวเลือดผิดปรกติ