น้ำตาเทียมรักษาตาแห้ง ใช้อย่างไรให้ถูกต้องและปลอดภัย
ไม่ว่าจะนั่งจ้องหน้าจอทั้งวัน อยู่ในห้องแอร์ หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ดวงตาแห้งและระคายเคืองได้ง่าย ซึ่งหลายคนรู้ว่า น้ำตาเทียม ตาแห้ง เป็นของคู่กัน เพราะน้ำตาเทียมช่วยบรรเทาอาการตาแห้งได้ แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้วิธีการใช้น้ำตาเทียมอย่างถูกต้อง บทความนี้ จึงจะพาไปดูว่า น้ำตาเทียมมีกี่แบบ ใช้อย่างไรให้ปลอดภัย และบรรเทาอาการตาแห้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รู้จักอาการตาแห้ง
อาการตาแห้งเกิดจากการที่ตาผลิตน้ำตาไม่เพียงพอหรือน้ำตามีคุณภาพไม่ดี ทำให้ผิวของดวงตาขาดความชุ่มชื้น ผู้ที่มีอาการตาแห้งมักจะรู้สึกระคายเคือง แสบตา มีความรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในตา ตาแดง มองเห็นไม่ชัด และบางครั้งอาจมีน้ำตาไหลมากผิดปกติ ซึ่งเป็นกลไกตอบสนองของร่างกายเมื่อดวงตาไม่ได้รับน้ำหล่อเลี้ยงมากพอ
น้ำตาเทียมคืออะไร
น้ำตาเทียมเป็นสารละลายที่มีคุณสมบัติคล้ายกับน้ำตาธรรมชาติ มีหน้าที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวดวงตาและช่วยบรรเทาอาการตาแห้ง น้ำตาเทียมประกอบด้วยน้ำและสารเพิ่มความหนืด ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองและช่วยหล่อลื่นผิวหน้าลูกตา โดยน้ำตาเทียมส่วนใหญ่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ แต่ควรเลือกชนิดที่เหมาะสมและใช้อย่างถูกวิธี
น้ำตาเทียมมีกี่รูปแบบ อะไรบ้าง
น้ำตาเทียมมีหลากหลายรูปแบบเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานและความรุนแรงของอาการตาแห้ง ได้แก่
- น้ำตาเทียมชนิดขวด เป็นรูปแบบที่พบได้ทั่วไป เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้งเล็กน้อยถึงปานกลาง น้ำตาเทียมชนิดขวดมักมีสารกันเสียเพื่อยืดอายุการใช้งาน โดยมีอายุการใช้งานได้ประมาณ 1 เดือน หลังจากเปิดใช้ แต่สารกันเสียอาจก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองในบางคน จึงควรระวังหากมีประวัติการแพ้ง่าย
- น้ำตาเทียมชนิดหลอดเดี่ยว ( Single-dose ) บรรจุในหลอดเล็ก ๆ ที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง ไม่มีสารกันเสีย จึงเหมาะสำหรับผู้ที่แพ้สารกันเสียง่ายหรือผู้ที่มีอาการตาแห้งรุนแรง ข้อดีคือ พกพาได้สะดวก สะอาด และปลอดภัย แต่มีราคาสูงกว่าชนิดขวด
- น้ำตาเทียมชนิดเจล มีความเข้มข้นสูงและให้ความชุ่มชื้นได้นานกว่าน้ำตาเทียมธรรมดา เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้งรุนแรง ข้อเสียคือหลังหยอดอาจมีอาการตาพร่ามัวชั่วขณะ เนื่องจากความหนืดของเจล
วิธีการใช้น้ำตาเทียมอย่างถูกต้อง
- ก่อนใช้น้ำตาเทียม ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งเพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโรคลงสู่ดวงตา
- สังเกตลักษณะของน้ำตาเทียม หากพบว่ามีสีเปลี่ยนไป มีตะกอน หรือหมดอายุ ห้ามนำมาใช้โดยเด็ดขาด
- เอียงศีรษะไปด้านหลังเล็กน้อย ดึงเปลือกตาล่างลง จากนั้นหยดน้ำตาเทียม 1-2 หยดลงในกระเปาะนั้น ระวังไม่ให้ปลายหลอดหยดสัมผัสตาหรือขนตา
- หลับตาเบา ๆ ประมาณ 1-2 นาทีเพื่อให้น้ำตาเทียมกระจายทั่วผิวดวงตา อย่าขยี้ตาหรือกะพริบถี่เกินไป และหากใช้ยาหยอดตาชนิดอื่นร่วมด้วย ควรรอห่างกันอย่างน้อย 5-10 นาที
ยาหยอดตา กับน้ำตาเทียม ต่างกันอย่างไร
น้ำตาเทียมและยาหยอดตามีความแตกต่างกันทั้งในแง่วัตถุประสงค์การใช้งานและส่วนประกอบ น้ำตาเทียมมีจุดประสงค์หลักเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและบรรเทาอาการตาแห้งเป็นหลัก มักประกอบด้วยสารที่ให้ความชุ่มชื้นและไม่มีตัวยาที่ออกฤทธิ์รักษาโรค สามารถใช้ได้บ่อยตามความจำเป็น และส่วนใหญ่สามารถหาซื้อได้เองตามร้านขายยา
ส่วนยาหยอดตามักมีตัวยาที่ออกฤทธิ์เฉพาะเพื่อรักษาโรคหรือความผิดปกติของดวงตา ส่วนใหญ่ต้องได้รับการสั่งจากแพทย์และมีข้อจำกัดในการใช้ มีระยะเวลาการใช้ที่ชัดเจน และอาจมีผลข้างเคียงหากใช้ไม่ถูกวิธีหรือใช้เป็นเวลานาน
จึงควรแยกแยะให้ชัดเจนระหว่างน้ำตาเทียมและยาหยอดตา และไม่ควรใช้ทดแทนกัน หากมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตาที่มากกว่าอาการตาแห้งธรรมดา ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง
วิธีป้องกันและดูแลดวงตาเพื่อลดอาการตาแห้ง
นอกจากการใช้น้ำตาเทียม ตาแห้งสามารถบรรเทาได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการดูแลดวงตาในชีวิตประจำวัน ดังนี้
- พักสายตาเป็นระยะเมื่อต้องใช้สายตานาน ๆ
- กะพริบตาให้ถี่ขึ้น
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีลมแรงหรืออากาศแห้ง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของร่างกาย
- สวมแว่นกันแดดเพื่อป้องกันดวงตาจากแสงแดดและลม
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือขยี้ดวงตา
- หากมีอาการตาแห้งเรื้อรัง ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม
สรุปบทความ
จะเห็นได้ว่า น้ำตาเทียม ตาแห้ง มักมาคู่กันเสมอ ซึ่งน้ำตาเทียมมีให้เลือกหลายรูปแบบตามความเหมาะสมกับอาการและความจำเป็นของแต่ละบุคคล การใช้น้ำตาเทียมอย่างถูกวิธีจะช่วยบรรเทาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสภาพแวดล้อมยังช่วยลดความรุนแรงของอาการตาแห้งได้อีกด้วย
สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสายตานอกเหนือจากอาการตาแห้ง ศูนย์แว่นตาไอซอพติก ศูนย์แว่นตาโปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล เราให้บริการวัดสายตาประกอบแว่นคุณภาพสูง มีทีมนักทัศนมาตรและจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา ออกแบบ และวิเคราะห์การใช้สายตาของคุณอย่างละเอียด โดยมีปรมาจารย์โบบิ คอยดูแลทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คุณได้รับแว่นตาโปรเกรสซีฟที่ใส่สบาย ตอบโจทย์การใช้งาน และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อมรับประกันความพึงพอใจสูงสุด 180 วัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
ปรมาจารย์โบบิ สายด่วน : 081-538-4200
LINE ID : @isoptik
เว็บไซต์ : https://www.isoptik.com
whatsapp : +66 81 538 4200
อีเมล : isoptik@gmail.com